https://wentimpression.blogspot.com/google.com,%20pub-3791389710662192,%20DIRECT,%20f08c47fec0942fa0 วิธีเดินทางไปภูเขาไฟฟูจิ+คาวากูจิโกะ

หน้าเว็บ

วิธีเดินทางไปภูเขาไฟฟูจิ+คาวากูจิโกะ




ความจริงแล้วรอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจินั้นมีทะเลสาบล้อมรอบอยู่มากถึง 5 แห่งได้แก่ ยามานากะโกะ (Yamanakako), ไซโกะ (Saiko), โชจิโกะ (Shojiko), โมโตซุโกะ(Motosuko), และ คาวากูจิโกะ (Kawaguchigo) แต่ในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 นี้ คาวากูจิโกะถือเป็นสถานที่ชมภูเขาไฟฟูจิยอดนิยมที่สวยงามและเดินทางจากกรุงโตเกียวได้สะดวกที่สุดแห่งหนึ่ง

1วิธีการเดินทางไปเยือนภูเขาไฟฟูจิ

  • รถบัส เป็นหนทางที่ประหยัดและง่ายสำหรับคนที่ไม่ชินทางอย่างชาวต่างชาติแบบเรา ๆ แต่อาจใช้เวลาในการเดินทางเยอะกว่าการขึ้นรถไฟและควบคุมเวลาไม่ได้หากการจราจรในบริเวณนั้นหนาแน่น

  • รถบัสที่ว่านี้มีชื่อว่า Highway Bus โดยเราสามารถขึ้นจากสถานีชินจุกุ (Shinjuku) ไปลงที่สถานีปลายทางคาวากูจิโกะได้เลย การนั่งรถบัสจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที (ในช่วงเวลาที่รถไม่ติด หากเป็นช่วงซากุระบานหรือใบไม้เปลี่ยนสีการจราจรจะติดขัด)
    อัตราค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่ราคาคนละ 1,750 เยน เด็ก 880 เยน (เที่ยวเดียว) ควรจองก่อนเดินทาง 1 วัน สามารถจองออนไลน์และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ จองรถ Tokyo Shinjuku Expressway Bus Terminal

    Shinjuku Expressway Bus Terminal

    ที่อยู่1F, 1 Chome-10 Nishishinjuku, Shinjuku-ku, Tōkyō-to 160-0023, Japan
    วิธีเดินทางนั่งรถไฟสาย Chou Line ลงที่สถานี Shinjuku เดินประมาณ 3 นาทีจะถึงป้ายรถบัส
    ราคาผู้ใหญ่คนละ 1,750 เยน เด็ก 880 เยน (เที่ยวเดียว)
    โทรศัพท์03-5376-2222
    WebsiteShinjuku Expressway Bus
    ดูแผนที่ Shinjuku Expressway Bus Terminal

  • รถไฟ เป็นการเดินทางที่สะดวก รวดเร็วและตรงเวลาที่สุด แต่จะไม่ได้แค่ต่อเดียวจบ เพราะการนั่งรถไฟไปคาวากูจิโกะนั้นจะมีการเปลี่ยนขบวนรถ ค่าใช้จ่ายจึงจะเยอะกว่าการเลือกนั่งรถบัสอยู่สักหน่อย

  • โดยเริ่มจากการนั่งรถไฟสาย Azusa จากสถานี JR Shinjuku หรือ Kaiji ไปลงที่สถานี JR Otsuki ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อัตราค่าโดยสารประมาณ 1,280 เยน *สามารถใช้ JR PASS ได้
    การขึ้นรถไฟขบวนนี้มีตู้ 3 แบบ ซึ่งเราต้องเลือกขึ้นรถไฟให้ถูกตู้ด้วยโดยจะมีระบุที่ตั๋วรถไฟหรือที่ป้ายสถานี (ควรตรวจดูทุกครั้งก่อนขึ้น)
    ตู้แบบที่ 1 สีเหลือง : สำหรับคนไม่ได้จองที่นั่ง
    ตู้แบบที่ 2 สีแดง : สำหรับคนที่จองที่นั่ง
    ตู้แบบที่ 3 สีเขียว : ที่นั่งแบบพิเศษ

    จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Fujikyu Railway จากสถานี Otsuki ไปลงที่สถานี Kawaguchikoใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อัตราค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่ 1,110 เยน เด็ก 560 เยน (เป็นราคาโดยประมาณ) *ไม่สามารถใช้ JR PASS ได้ โดยสามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานี Otsuki (บอกพนักงานว่าไปลงสถานี คาวากูจิโกะ )
    เมื่อถึงสถานี Otsuki เราจะต้องต่อรถไฟไปลงสถานีปลายทาง Kawaguchiko (แต่รถไฟจะจอดค้างอยู่ที่สถานี Fujikyu Highland เพื่อหัวหัวกลับ ก็ไม่ต้องตกใจและอย่าเพิ่งลงนะ เพราะยังไม่ถึงจุดหมายของเรา ดูชื่อสถานีกันดี ๆ นะ) ซึ่งรถไฟสายนี้บางขบวนก็จะมีลวดลายน่ารัก ๆ ในธีมภูเขาไฟฟูจิให้เราได้นั่งด้วย

     Otsuki Station

    ที่อยู่3641, Funatsu, Fujikawaguchiko-machi, Minamitsuru-gun, Yamanashi-ken 401-0301, Japan
    วิธีเดินทางนั่งรถไฟสาย Chou Line จากสถานี Shinjuku ไปลงที่สถานี Otsuki แล้วเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Fujikyu Railway ไปลงที่สถานี Kawaguchiko
    ราคาผู้ใหญ่คนละ 1,110 เยน เด็ก 560 เยน (เที่ยวเดียว)
    WebsiteMt.Fuji Explorer
    ดูแผนที่ Otsuki Station

    2ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับไปชมภูเขาไฟฟูจิ

    แม้ว่าภูเขาไฟฟูจิจะมีทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่เหล่าเมฆหมอกบริเวณนั้นมักจะไม่ค่อยเป็นใจให้เราได้ชมภูเขาไฟลูกนี้กันได้อย่างเต็มที่สักเท่าไหร่ นักท่องเที่ยวหลายคนก็ต้องผิดหวังเพราะอดเห็นภูเขาไฟฟูจิแบบเต็มตา ดังนั้นการดูพยากรณ์อากาศก่อนจะไปชมภูเขาไฟลูกนี้จึงมีความสำคัญมาก
    คำแนะนำในการดูพยากรณ์อากาศก่อนไปชมภูเขาไฟฟูจิ
      1. การกำหนดวันที่จะไปชมภูเขาไฟฟูจิควรกำหนดจากสภาพอากาศ
      2. การดูพยากรณ์อากาศควรดูแบบวันต่อวัน สามารถดูได้ด้วยการค้นหาคำว่า ‘kawaguchiko weather’ ในเว็บไซต์ Google.com
      3. พยากรณ์อากาศจะขึ้นให้เราดูล่วงหน้าเป็นเวลา 1 อาทิตย์ (แต่แนะนำให้ดูวันต่อวันนะ)
      4. วันที่เหมาะสมกับการไปเยือนฟูจิก็คือวันที่ขึ้นเป็นรูปพระอาทิตย์แจ่มใสไร้เมฆหมอกใด ๆ นั่นเอง
      5. ก่อนออกเดินทางก็ควรดูพยากรณ์อากาศอีกทีเผื่อความชัวร์นะจ๊ะ ไปถึงคาวากูจิโกะแล้วจะได้เห็นวิวฟูจิกันแบบเต็ม ๆ ไม่เสียเที่ยว

    3ภูมิอากาศบริเวณภูเขาไฟฟูจิ

    ช่วงเวลาที่สภาพอากาศและอุณหภูมิเหมาะสมที่สุดในการชมภูเขาไฟฟูจินั่นก็คือช่วงเดือนเมษายนในหน้าร้อน และเดือนพฤศจิกายนในฤดูใบไม้ร่วงนั่นเอง แต่อย่างที่ได้บอกไปว่าภูเขาไฟฟูจิมีความงดงามในทุกฤดูกาล จึงสามารถเลือกไปเยือนกันได้ตามความพอใจและตามความสะดวกของแต่ละคน ชอบสภาพอากาศแบบไหนก็ลองวางแผนกันก่อนไปดู
    ช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม (ฤดูหนาว)
    อุณหภูมิ : ติดลบจนถึง -10 องศาเซลเซียส
    อากาศหนาว หิมะตกมาก ที่ยอดภูเขาไฟฟูจิมีหิมะปกคลุมจนเป็นสีขาว
    ไฮไลท์ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์จะเป็นช่วงที่ฟูจิสวยที่สุดในฤดูหนาว

    ช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน (ฤดูใบไม้ผลิ)
    อุณหภูมิ : ประมาณ 5-25 องศาเซลเซียส
    ที่ยอดภูเขาไฟฟูจิยังคงมีหิมะปกคลุมอยู่แต่จะเริ่มน้อยลงจนเกือบหมด อากาศเย็นสบาย
    ไฮไลท์ ช่วงเดือนเมษายนซากุระจะบานสวยงาม

    ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน (ฤดูร้อน)
    อุณหภูมิ : ประมาณ 15-30 องศาเซลเซียส
    ท้องฟ้าใสดอกไม้บาน อาจมีฝนตกบางวัน อากาศร้อนชื้น ที่ยอดฟูจิไม่มีหิมะปกคลุม
    ไฮไลท์ ดอกลาเวนเดอร์จะบานในช่วงเดือนมิถุนายนและจะมีเทศกาลดอกไม้ไฟสุดอลังการในเดือนสิงหาคม

    สำหรับนักปีนเขา
    ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมของทุกปี ภูขาไฟฟูจิจะเปิดให้นักท่องเที่ยวปีนขึ้นไปได้ เส้นทางในการปีนขึ้นภูเขานั้นมีหลายเส้นทาง คาวากูจิโกะเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยนะ ใครชอบปีนเขาก็ลองมาพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิกันได้นะ
    ช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม (ฤดูใบไม้ร่วง)
    อุณหภูมิ : ประมาณ 5-20 องศาเซลเซียส
    ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี อากาศเริ่มหนาวและเริ่มมีหิมะบริเวณยอดภูเขาไฟฟูจิ (ช่วงปลายเดือนตุลาคม)
    ไฮไลท์ ใบไม้เปลี่ยนสีเดือนตุลาคม และจะเป็นสีแดงในช่วงพฤศจิกายน ในฤดูกาลนี้การแช่ออนเซ็นชมฟูจิจะได้อารมณ์มาก

    4การไปชมภูเขาไฟฟูจิ รอบทะเลสาบคาวากูจิโกะ

    วิธีการเดินทางท่องเที่ยวที่สะดวกที่สุดในการชมวิวภูเขาไฟฟูจิ รอบทะเลสาบคาวากูจิโกะก็คือการนั่งรถ Retro Bus สายพิเศษที่วิ่งรอบทะเลสาบแห่งนี้ชั่วโมงละ 2 คันหรือประมาณทุก ๆ 30 นาที จอดทั้งหมด 21 ป้าย
    โดย Retro Bus ที่ว่านี้จะมี 2 สายด้วยกันคือ
    1. Kawaguchiko Line : วิ่งไปตามริมฝั่งทิศเหนือและตะวันออกของทะเลสาบคาวากูจิโกะ
    2. Saiko-Aokigahara : วิ่งตามทางทิศใต้ริมทะเลสาบคาวากูจิโกะ แล้ววิ่งไปวนรอบทะเลสาบไซโกะ
    *ค่าโดยสารขึ้นอยู่กับระยะทาง
    *สามารถซื้อ unlimited ride coupon สำหรับ 2 วัน (นั่งรถบัสได้ไม่จำกัดเที่ยวในเวลา 2 วัน) ได้ ผู้ใหญ่ราคา 1,200 เยน เด็ก 600 เยน
    อ่านรายละเอียดของ Retro Bus เพิ่มเติมได้ที่ Retro Bus
    แต่นอกจากการนั่ง Retro Bus แล้วเรายังสามารถเที่ยวชมรอบทะเลสาบแบบชิล ๆ ได้ด้วยการเช่าจักรยานหรือเช่ารถยนต์นั่นเอง แต่ไม่แนะนำให้เดินเพราะจุดชมภูเขาไฟฟูจิที่สวยที่สุดห่างจากสถานี Kawaguchiko ถึง 6.6 กิโลเมตร ถือเป็นระยะทางที่ไกลมาก ๆ

    5สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจรอบทะเลสาบคาวากูจิโกะ

  • ป้ายหมายเลข 7
  • เหมาะสำหรับคนที่ชอบสมุนไพร เครื่องหอม เพราะที่ป้ายนี้จะมีบ้านขายสมุนไพรและเครื่องหอม Kawaguchiko Herb Hall ที่สามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากได้ด้วย
    แถมด้วยพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงของเล่นโบราณ Kawaguchiko Kitahara Museum “HAPPY DAYS” ที่น่าเข้าไปชมไม่แพ้กัน (ค่าเข้าผู้ใหญ่ 800 เยน, เด็ก 6-14 ปี 400 เยน)
  • ป้ายหมายเลข 10
  • ป้ายนี้ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดเพราะที่ Yuransen Ropeway Iriguchi จะมี Kachikachiyama Ropeway กระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปสู่จุดชมวิวที่สวยสุดยอดของภูเขาเท็นโจ ซึ่งเปิดทำการตั้งแต่ 9.00-17.10 น.
    ค่าตั๋วนั่งกระเช้า
    เที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ราคา 400 เยน เด็ก 200 เยน
    ไปกลับ ผู้ใหญ่ราคา 700 เยน เด็ก 350 เยน
    และบริเวณฝั่งตรงข้ามของที่ขึ้นกระเช้าก็ยังมี Ensoleille Sailing ท่าเรือสำหรับออกไปล่องเรือชมวิวภูเขาไฟฟูจิในอีกหนึ่งรูปแบบ โดยจะใช้เวลาล่องเรือประมาณ 20 นาที (เรือหมดรอบ 17.30 น.)
    ค่าตั๋วนั่งเรือ
    เที่ยวเดียว ผู้ใหญ่ราคา 900 เยน
    เด็ก 450 เยน

  • ป้ายหมายเลข 16
  • ที่นี่จะมี Kawaguchiko Music Forest Museum ซึ่งจัดแสดงกล่องดนตรีสวย ๆ ไว้มากมายทั้งยังมีไฮไลท์เป็นการแสดงเพลงบรรเลงทุก ๆ 30 นาทีที่ห้อง Dance Organ อีกด้วยนะ
    ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 1,300 เยน, เด็ก (6-14 ปี) 800 เยน, เด็กโต (15-21 ปี) 1,100 เยน
  • ป้ายหมายเลข 18
  • เป็นบริเวณที่ทิวทัศน์สวยที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะใบไม้จะเปลี่ยนสีสวยและที่นี่จะกลายเป็นอุโมงค์เมเปิ้ลสีแดง (เดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน) แล้วยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Kubota Itchiku Art Museum ที่จัดแสดงชุดกิโมโนที่ออกแบบไว้อย่างมีศิลปะและน่าเข้าไปชมอีกด้วย
  • ป้ายหมายเลข 21
  • Kawaguchiko Shizen Seikatsukan ที่นี่คือป้ายรถป้ายสุดท้ายของทะเลสาบคาวากูจิโกะ บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยมาก ๆ อย่างที่ไม่มีอะไรมาบดบังตัวภูเขา ทั้งยังมีร้านขายของที่ระลึก ร้านของฝาก ร้านกาแฟและร้านขายซอฟต์ครีมน่าชิมอยู่ด้วย

    ข้อสรุป

    การไปชมภูเขาไฟฟูจิอันเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นนั้นไม่ยาก หากนักท่องเที่ยวอย่างเรามีการเตรียมพร้อมที่ดี ที่สำคัญคือเราจะต้องเลือกวิธีการเดินทางที่เหมาะกับตัวเอง จำจุดขึ้นรถบัสหรือจำสถานีรถไฟที่ต้องไปลงหรือเปลี่ยนให้ดีเท่านี้การไปภูเขาไฟฟูจิด้วยตัวเองแบบไม่ต้องง้อทัวร์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก อ้ออย่าลืมเช็คพยากรณ์อากาศก่อนจะเดินทางไปด้วยนะ !
    ขอบคุณแหล่งข้อมูลนี้จากเวป : https://chillchilljapan.com

    ไม่มีความคิดเห็น:

    โพสต์แนะนำ