สุสานแดบินมโย – ขอคู่ยังไงให้ได้คู่ 2019 ฉบับเกาหลี ตามรอยซีรีส์ดัง “ทงอี และ จางอ๊กจอง”
ใครเคยดูซีรี่ย์ประวัติศาสตร์ ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์ หรือ จางอ๊กจอง ตำนานรักแห่งจอมนาง จะต้องรู้จักพระสนมจางฮีบินอย่างแน่นอน เพราะเป็นตัวตั้งตัวดีสำคัญของเรื่อง ซึ่งตัวละครหลักของทั้งสองเรื่อง เช่น พระเจ้าซุกจง มเหสีอินฮยอน พระสนมฮีบิน (จางอ๊กจอง) หรือพระสนมซุกบิน (ทงอี) ต่างก็เป็นตัวละครที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์เกาหลี เนื้อเรื่องเกิดขึ้นในสมัยพระเจ้าซุกจง กษัตริย์องค์ที่ 19 แห่งราชวงศ์โชซอน จริง ๆ แล้ว นอกจากสองเรื่องที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีภาพยนตร์ ซีรี่ย์อีกหลายเรื่องหลายเวอร์ชั่นที่เกี่ยวข้องกับพระสนมฮีบิน ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ตามใจผู้กำกับ ส่วนเราก็ไม่สามารถตัดสินได้ว่าเรื่องไหนตรงกับความเป็นจริงที่สุด หรือความจริงเป็นอย่างไร เพราะประวัติศาสตร์นั้นมักถูกจารึกโดยผู้ชนะ
ในเวอร์ชั่นทงอี พระสนมฮีบินนั้นร้ายสุดจะบรรยาย คนดูเกลียดกันทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ถ้าดูเรื่องจางอ๊กจอง (เวอร์ชั่นคิมแทฮีแสดงเป็นที่รู้จักมากที่สุดในบ้านเรา) จะเห็นตัวละครในมุมที่ต่างกันออกไป เข้าใจสาเหตุการกระทำมากขึ้น เราจะเห็นได้ว่าพระนางนั้นเป็นคนสำคัญ คนรู้ใจที่ฝ่าบาทพยายามปกป้องมาโดยตลอด ซีนสุดท้ายที่ต้องตัดสินประหารชีวิต โดยให้ดื่มยาพิษ คนดูร้องไห้ตาบวม ทิชชู่หมดไปเป็นแพ็ค ๆ เอาเป็นว่าใครอยากดูเรื่องเต็ม ๆ ไปหาดูกันได้ สนุก เข้มข้น นักแสดงดี คอนเฟิร์ม! ประเด็นหลักของเราในวันนี้ คือ การเดินทางไปขอพรที่สุสานของพระสนมฮีบิน หรือที่เรียก สุสานแดบินมโย
สายเดินทางขอเนื้อคู่ หากไปที่อื่นมาแล้วแต่ยังไม่สมหวัง แนะนำลองมาสุสานแทบินมโย ขอพรกับพระสนมจางฮีบินดูก่อน เนื้อคู่พวกเราอาจเป็นสายอปป้า ไม่แน่ อาจจะได้เจอใครซักคนที่รักเราเหมือนที่พระเจ้าซุกจงทรงรักและโปรดปรานพระสนมฮีบินก็เป็นได้นะ
วันนี้ ทีมงานจะไปเกาหลี จะพาไปที่ สุสานแดบินมโย หรือ Daebinmyo (대빈묘) สุสานที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของเกาหลี อย่างที่เกริ่นเรื่องราวกันไป จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อสำหรับคนไทยคือ สุสานจางฮีบิน (จางอ๊กจอง) ด้วย ก็ให้รู้ว่าคือสถานที่เดียวกัน
การเดินทางไปสุสานแดบินมโย
สุสานใหญ่แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่เมือง โคยัง (Goyang) จังหวัดคยองกี (Gyeonggi-do) ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโซล สามารถเดินทางไปลักษณะครึ่งเช้า หรือครึ่งบ่าย หรือจัดกันเต็มวันได้ตามความเหมาะสม เพราะบริเวณสุสานแห่งนี้มีความใหญ่ มีเส้นทางสำหรับผู้ที่ต้องการเดินชมป่าด้วย จึงอยากให้เผื่อเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
ที่อยู่ : 334-32, Seooreung-ro, Deogyang-gu, Goyang-si, Gyeonggi-do
(경기도 고양시 덕양구 서오릉로 334-32)
แผนที่ : [Google Maps] [NAVER MAP]
(경기도 고양시 덕양구 서오릉로 334-32)
แผนที่ : [Google Maps] [NAVER MAP]
นั่งรถใต้ดินมาลงที่ สถานีนกบอน (Nokbeon,녹번) สาย 3 ออกประตูทางออก 4 เดินตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 200 เมตร จะเห็นป้ายรถเมล์หมายเลข 12-125 อยู่
ให้นั่ง รถบัสสาย 702A (บัสออกทุกๆ 5-7 นาที) หรือ สาย 9701 (ออกทุกๆ 7-21 นาที) นั่งไปประมาณ 15 ป้าย 23 นาที จากนั้นให้ลงที่ “ป้ายซอโอรึงอิพกู (Seooreung Entrance / 서오릉입구)”
จะเห็นว่าช่วงที่ไปนั้นมีการปรับปรุงป้ายจอดรถบัสอยู่ ก็อาจจะต้องทุลักทุเลกันหน่อย แต่ทางเข้าไปยังซอโอรึงนั้น หาไม่ยากเพราะมีป้ายเด่นชัดมาแต่ไกล
เข้ามาก็จะเห็นจุดจำหน่ายตั๋ว โดยเด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 24 ปี เข้าชมฟรี อายุ 25-64 ปีขึ้นไป มีค่าชม 1,000 วอน (และส่วนลดสำหรับผู้ที่เข้าชมเป็นกลุ่มคณะ เกิน 10 คน คนละ 800 วอน)
วันเวลาที่เปิดให้เข้าชม
เดือน
| เวลาจำหน่ายบัตร |
เวลาเปิดเข้าชม
|
กุมภาพันธ์-พฤษภาคม | 06.00-17.00 น. | 06.00-18.00 น. |
มิถุนายน-สิงหาคม | 06.00-17.30 น. | 06.00-18.30 น. |
พฤศจิกายน-มกราคม | 06.30-16.30 น. | 06.00-17.30 น. |
ช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-มกราคม จะเห็นว่าปิดให้บริการเร็วกว่าปกติ ก็เนื่องจากว่าหน้าหนาวที่เกาหลี จะมืดเร็วนั่นเอง เราสามารถเช็คเวลาที่จะต้องออกได้อีกครั้งจากป้ายบริเวณจุดซื้อตั๋ว
เมื่อเข้ามาแล้ว ก็จะเป็นทางเดืน รายล้อมไปด้วยป่าไม้ ร่มรื่นสวยงาม บริเวณที่เป็นสุสานหลวง เราก็จะเห็นประตู ป้าย เด่นอย่างชัดเจน สุสานที่อยู่ใกล้ที่สุดจะเป็น มยองนึง (명릉) ซึ่งเป็นสุสานของพระเจ้าซุกจง พระราชินีอินฮยอน (พระมเหสีองค์ที่ 2) และพระราชินีอินวอน (พระมเหสีองค์ที่ 3)
บริเวณหน้าสุสานจะแบ่งเป็นโซนๆ หลังประตูตรงนี้ไปจะเห็นเป็นทางเดินยาว ไปเป็นรูปอักษรตัว T นี้ เป็นเส้นทางที่ใช้สำหรับประกอบพระราชพิธี แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ฮยังโน (향로) เป็นเส้นทางสำหรับเคลื่อนย้ายแท่นบูชา บทสวดต่างๆที่ใช้สำหรับการประกอบพิธี และ ออโร (어로) เส้นทางนี้เป็นเส้นทางของพระมหากษัตริย์ เราสามารถเดินตรงเส้นทางนี้ได้ แต่เพื่อความสำรวมขอแนะนำให้เดินริมสุด เลี่ยงบริเวณนี้ไปเลยยิ่งดี ทางนี้จะเรียกว่า พยอลโร (변로) ซึ่งเป็นเส้นทางของข้าราชบริพาร
เดินตรงไปตามเส้นทาง เราจะเห็นกับ สุสานซุนช่างวอน (순창원) เป็นสุสานของรัชทายาทซุนฮี แห่งกษัตริย์มยองจง (กษัตริย์ในสมัยราชวงศ์โชซอนที่ 13) และสุสานของพระสนมคง หรือ คงฮีบิน แต่ร่างของพระนางได้สูญหายไปในช่วงการรุกรานของประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้สุสานของพระสนมคงนั้นเป็นเพียงหลุมเปล่าเท่านั้น
ลืมแนะนำว่า หากมีโอกาสได้เดินทางมาที่นี่ ฤดูกาลที่แนะนำที่สุดคงเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วง เพราะจะทำให้เพื่อนๆได้ชมบรรยากาศของต้นไม้ที่เขียวขจี หรือแดงๆแบบนี้ไปตลอดแนว สำหรับฤดูหนาวก็อาจจะรู้สึกหนาวเป็นพิเศษหน่อย เพราะมีความชื่นและบริเวณนี้ค่อนข้างโล่ง ลมพัดผ่านไม่มีอะไรบดบัง
ถัดมาเป็น สุสานคยองนึง (경릉) เราอาจจะว่าแต่ละที่มีความคล้ายคลึงกันมาก แต่แต่ละที่ถ้าสังเกตดีๆจะมีรายละเอียดที่ไม่เหมือนกัน สุสานคยองนึงนั้น เป็นสุสานของเจ้าชายอึยกยอง ที่ภายหลังได้รับการสถาปนาเป็นพระเจ้าดอกจง และยังเป็นสุสานของพระสนมโซฮเยอีกด้วย
และหากเดินมาตามเส้นทางเดินเรื่อยๆ ก็จะเห็นทางแยกมายัง สุสานแดบินมโย (Daeminmyo) สุสานของพระสนมฮีบิน (จางอ๊กจอง) ไฮไลท์ที่จะพามาชมกัน โดยทางจะเป็นทางแยกออกไป มีขนาดเล็กๆไม่ใหญ่มาก
เราสามารถถ่ายภาพ และชมบริเวณสุสานได้ใกล้สุดถึงแค่บริเวณบันไดเท่านั้น และสามารถแสดงความเคารพได้จากบริเวณนี้
และท้ายสุดคือสุสานที่อยู่ด้านในที่สุด เป็นสุสานที่ชื่อว่า “ชังนึง (창릉)” สุสานหลวงของกษัตริย์ลำดับที่ 8 แห่งราชวงศ์โจซอน พระเจ้าเยจง และพระสนมอานซุน
บริเวณที่เป็นสุสานหลวง จะมีคำว่า ลึง หรือ นึง ตามที่เห็นกันมา จะสังเกตได้ว่าหน้าหลุมจะมีอาคารเล็กๆลักษณะนี้ อาคารนี้จะเรียกว่า “ชองจากัก (정자각)” เป็นสถานที่จัดวางโต๊ะหมู่บูชา เข้ามาดูตรงนี้จะมีเป็นแผ่นป้ายอธิบายให้เห็นหมดเลยว่า บนโต๊ะจะต้องใช้อะไรบ้าง เราสามารถชมพิธีที่มีการสืบทอดกว่า 600 ปีนี้ได้ได้ โดยสุสานแต่ละแห่งจะมีเวลาทำพิธีที่แตกต่างกันตามตารางดังนี้
กำหนดการประกอบพิธีของสุสานแต่ละแห่ง
สุสาน
|
วันที่ประกอบพิธี
|
คยองนึง (경릉) | วันเสาร์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม ของทุกปี |
ชังนึง (창릉) | วันที่ 16 เมษายน ของทุกปี |
อิงนึง (익릉) | วันที่ 1 พฤศจิกายน ของทุกปี |
มยองนึง (명릉) | วันที่ 13 พฤษภาคม ของทุกปี |
ฮงนึง (홍릉) | วันที่ 3 เมษายน ของทุกปี |
ซุนชังวอน (순창원) | วันที่ 6 ตุลาคม ของทุกปี |
ซูคยองวอน (수경원) | วันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนกันยายน ของทุกปี |
แดบินมโย (대빈묘) | วันที่ 9 พฤศจิกายน ของทุกปี |
โอลลึง (온릉) | วันที่ 7 ธันวาคม ของทุกปี |
* ข้อมูลจากแผ่นพับของสุสานหลวงซอโอรึง ต้นฉบับภาษาเกาหลีแปลโดยทีมงานจะไปเกาหลี
เป็นอีกหนึ่งสุสานที่มีความยิ่งใหญ่ และมีคงเหลือร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจให้คนที่ชื่นชอบได้เข้ามาศึกษาและติดตาม ความยิ่งใหญ่นี้ทำให้ สุสานหลวงซอโอรึง (Seooreung Royal Tomb) นี้ได้รับการจดบันทึกเป็น มรดกโลกแห่งเกาหลี (World Heritage in the Republic of Korea) อีกด้วย
ต้องบอกว่าสุสานหลวงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ไม่ได้ให้บรรยากาศที่คร่ำครึ กลับเป็นสถานที่ร่มรื่นและเหมาะกับการพักผ่อน เนื่องจากเต็มไปด้วยป่าไม้ มีเส้นทางให้เดินพักผ่อนหย่อนใจ การเดินทางสำหรับผู้ที่มีเวลาว่าง สามารถศึกษาเส้นทางการเดินบนเขาได้ โดยจะมีเส้นทางเฉพาะไว้ให้ขึ้นไปถ่ายรูปบนยอดจากมุมสูงได้
เส้นทางมีความชัน เล็ก และอาจจะซับซ้อน ต้องสังเกตป้ายภาษาเกาหลีตลอดทาง จึงแนะนำสำหรับผู้ที่มีเวลาในการเดินทางอย่างน้อย 2 ชั่วโมงขึ้นไป
ใครที่มีโอกาสได้เดินทางไปที่นี่แล้ว อย่าลืมไปแชร์เรื่องราวและภาพบรรยากาศใน กลุ่มจะไปเกาหลี กันด้วยล่ะ และอย่าลืมติดตาม แฟนเพจจะไปเกาหลี และ Twitter เพื่ออ่านรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีใหม่ๆ ส่งตรงทุกวัน ~
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจากเวปนี้...... https://japaikorea.com/seooreung-royal-tomb/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น