https://wentimpression.blogspot.com/google.com,%20pub-3791389710662192,%20DIRECT,%20f08c47fec0942fa0 2 แม่ลูกวางแผนเที่ยวเกาหลี.."ตะลุยโซล" (ครั้งแรก) ep. 3 ทริค!(บินตรง)จองตั๋วเครื่องบินให้ได้ราคาถูก

หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2562

2 แม่ลูกวางแผนเที่ยวเกาหลี.."ตะลุยโซล" (ครั้งแรก) ep. 3 ทริค!(บินตรง)จองตั๋วเครื่องบินให้ได้ราคาถูก


ep. 3 
ทริค ! การจองตั๋วเครื่องบินให้ได้ราคาถูกสุด !
แบบบินตรง ถึงไว ! สบาย*~~~***ชิลๆ 



ทริปเที่ยวเกาหลี(โซล) ในครั้งนี้เราจะเน้น บินตรง !
จากสนามบินเชียงใหม่ CNX. --> ICN กันเลยทีเดียว !
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ emo เครื่องบิน
ราคานั้นต้องถูก ! สามารถจับต้องได้ทัน ! 
ก็ต้องค้นหาสายการบินที่สามารถเดินทางโดยตรงจากสนามบินใกล้บ้าน
ที่เป็นต้นทางของเรา อาทิเช่น จากสนามบินเชียงใหม่ นั้นมีสายการบินที่เดินทาง
ไปต่างประเทศนั้นมีสายการบินอะไรบ้างนะ? จะเป็นแบบฟูลเซอร์วิส/บริการบนเครื่อง
หรือจะเป็นสายการบินแบบโลว์คอร์ส อย่างไรนั้นก็แล้วแต่จำนวนเงินในกระเป๋าของเรา
แต่ทริปนี้...ขอเน้น ทริป ! เที่ยวแบบถูกและดี เที่ยวกันแบบชิลๆ ชิคๆ 
ไปกันเองได้ไม่ง้อทัวร์อะไรแบบนั้น ! สรุปน่าจะต้องใช้บริการจากสายการบินแบบ
บินตรงโลว์คอร์ส ซะแล้วหละ
 
แล้วก็หากันจนเจอกับ......สายการบินเจจู  (Juju Air)
เป็นสายการบินแบบ Premium Economy Airlines

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การ์ตูนเคลื่อนไหวน่ารักๆ
เข้าไปอ่านรายละเอียดการให้บริการของสายการบินเจจู ซะก่อนนะ..ให้เข้าใจถ่องแท้
ทริปแพลนของเราจะไม่สะดุดปัญหายิบย่อยต่างๆนะ  เราก็พอได้เนื้อหาจำเป็นต้องรู้
เกี่ยวกับสายการบินเจจูนี้มาฝากกัน ....! ไล่ลำดับไปตามความสำคัญก็คือ : )

Jeju Air ใช้เครื่องบินแบบ Boeing 737-800 ที่นั่งแบบ 3-3


@ มีอาหารกล่องเสิร์ฟบนเครื่องบิน / อาจมีขายอาหารบนเครื่อง / เสิร์ฟแค่น้ำดื่ม...
ไม่แน่ใจ!กับที่อ่านเจอในหลายรีวิว!  ดังนั้น ! จึงต้องตามรอยกันไปดูของจริงก่อน...

ในปีล่าสุด 2562 นี้กันก่อนจะมารีวิวการเดินทาง*~~**
โดยเจจูแอร์ ให้ได้ดูชมกันในโอกาสต่อไปข้างหน้าที่จะถึงเร็วๆ นี้....


@ ผ้าห่มบนเครื่องนั้น ! ก็ไม่เห็นใครรีวิวนะว่ามี / ไม่มีอย่างไรบ้าง? 
แต่ก็เผื่อไว้ยามจำเป็นถ้าเดินทางไปในช่วงหน้าหนาว ก็หาผ้าห่ม/ ผ้าคลุมผืนเล็ก
ติดกระเป๋าขึ้นเครื่องไปด้วย เพราะหิ้วกระเป๋า น้ำหนักไม่เกิน 10 กก. ขึ้นเครืองได้

@ น้ำหนักกระเป๋าเดินทาง ที่โหลดใต้เครื่อง ถ้าเราซื้อตั๋วเครื่องบินแบบปกติ จะได้น้ำหนัก
กระเป๋าโหลดใต้เครื่องได้ไม่เกิน 20 กก. และซื้อตั๋วแบบลดราคา ก็จะได้น้ำหนักกระเป๋า
โหลดใต้เครื่อง 15 กก. แต่ถ้าเป็นตั๋วแบบโปรโมชั่นลดแหลก ! นั่น จะไม่มีน้ำหนักระเป๋า
จึงต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มเติม และต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อค่าเลือกที่นั่ง 
ตามบริการ Purchased Block Seat ด้วยนะคะ
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

@ ช่วงเวลาจองตั๋วเครื่องบินให้ได้ราคาถูก แบบ"ตั๋วลดราคา" 
ทางสายการบินเจจูแอร์ จะปล่อยตั๋วโดยสารออกมาก่อนการเดินทางของเรา 30 วัน

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รีวิวราคาตั๋วบินลดราคา ตั๋วโปร กับ เจจูแอร์ ไปเกาหลี

ราคาค่าตั๋วโปรโมชั่น Super Sale !
ก็มีหลายราคาถูกมากน้อยก็แล้วแต่ช่วงเวลานั้นๆ 
ที่แชร์บทความกันในพันทิป อาทิเช่น....

25 ก.ค. 2561 - วันนี้จะมารีวิวเรื่อง การได้ตั๋วเครื่องบินที่ร้องว้าวมาก ของสายการบิน Jeju Air ช่วงตอนนั้นคือ จะมีการโปรโมท SUPER SALE 1.2.1.7 ใช่ป่ะ ... เครื่องสำอาง เสริมสวย แฟชั่น เครื่องประดับ ลดความอ้วน ... เราสามพี่น้องไปเที่ยวเกาหลีบ่อยมาก สลับกันไปพร้อมกันบ้าง .... โปรนี้มีปีละสองครั้งนะคะ จองได้มกรากับกรกฎาคม ปีหน้าก็ขอให้เป็นแบบนี้เนอะ.
คุณไปที่หน้าเว็บนี้เมื่อ 20/4/2019
7 ม.ค. 2561 - เมื่อวาน สายการบิน Jeju Air ออกโปร 1,550 บาทต่อเที่ยว ไปเกาหลี ผมรู้ข่าวนี้ผ่านเพจอาแป๊ะครับ .... สายนี้เคยนั่งตอนไปกับทัวร์ เครื่อง 737 เหมือนนกแอร์/ไลอ้อนครับ แจกแต่น้ำเปล่า ..... โชคร้ายตั๋วเชจูหมดโปรต้องซื้อราคาปกติเกือบแพงเท่าราคาตั๋ว กทม ปูซาน ... ราคา 12000+ ซึ่งยังไม่เลวร้าย ตอนนี้รอรีวิวเหมือนกันแต่ยังไงก็ต้องไปละ ...
คุณไปที่หน้าเว็บนี้เมื่อ 20/4/2019
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ รีวิวราคาตั๋วบินลดราคา ตั๋วโปร กับ เจจูแอร์ ไปเกาหลี



ขอบคุณรีวิวดีๆ นะคะ
ตามที่สัญญาไว้กับเพื่อนๆว่าจะรีวิวสายการบินเจจูแอร์ (Jeju Air) มาให้ชมกัน การเดินทางในทริปเกาหลีใต้ครั้งนี้เลยจัดเต็มมาให้ครับ ทั้งเที่ยวการเดินทางไป และการเดินทางกลับ กับสายการบินโลว์คอสแอร์ไลน์อันดับหนึ่งของเกาหลี เจจูแอร์ (Jeju Air) 


ทำความรู้จักเจจูแอร์อย่างแรก เท่าที่สำรวจ สายการบินในเกาหลีมาบ้าง จะเห็นว่าในระดับโลว์คอสแอร์ไลน์ด้วยกันแล้ว สายการบินเจจู (Jeju Air) ค่อนข้างจะมีการจัดโปรโมชั่น และการตลาดค่อนข้างบ่อย และสม่ำเสมอ อีกอย่างมีภาพลักษณ์ที่ดีมาก มีพรีเซนเตอร์เป็นนักร้องเกาหลีชื่อ ลีมินโฮ ทำให้สายการบินนี้ดูน่ารักมากๆทีเดียวครับ 


ภาพ : เคาเตอร์เช็คอินของสายการบินเจจูที่สนามบินสุวรรณภูมิ

เรื่องการจองเดี๋ยวจะว่ากันในตอนท้ายก็แล้วกันนะครับ ว่าจองยังไง แค่วิธีจองนี้ก็มีอะไรน่าสนใจมากทีเดียว แต่เอาใจคนใจร้อนก่อน คงอยากเห็นเครื่องบินกันแล้ว ว่าหน้าตาเป็นยังไง มีอะไรสะดุดตากันบ้าง จากประสบการณ์ในการเดินทางด้วยเจจูแอร์ของผม …จะเป็นอย่างไรเดินทางไปพร้อมกันเลยครับ 

เที่ยวบินของผม ประมาณ ตี1 ครับ แต่จะไปถึงเกาหลีประมาณ 9โมงเช้า เวลากำลังพอดีๆ คนส่วนใหญ่ที่ใช้บริการก็เป็นชาวเกาหลีครับ ที่สังเกตุ หิ้วถุงกอล์ฟมากันแทบทุกคน ชาวเกาหลีคงเดินทางมาเล่นกอล์ฟกันที่เมืองไทยกันเยอะ ถุงกอล์ฟใหญ่ๆกันทั้งนั้นเลยครับ มีเที่ยวกลับไทยที่ผมเจอคนไทยหลายคนทีเดียวที่เดินทางกลับด้วยสายการบินนี้ 


ภาพ : ชาวเกาหลีนิยมเดินทางด้วยสายการบินเจจูมากทีเดียวครับ 

สำหรับกระเป๋าที่นำขึ้นเครื่องได้คือ 10กิโลกรัมและกระเป๋าที่โหลดได้ฟรีคือ 15 กิโลกรัมครับ สำหรับที่นั่งและสัมภาระเราสามารถซื้อออฟชั่นได้อีกนะครับ ถ้าใครสนใจ เป็นบริการเสริมที่ผมชอบมากเลยละครับ Purchased Block Seat คือเราสามารถเลือกที่จะบล๊อคที่นั่งข้างเราไว้ได้1เก้าอี้เพื่อไม่ให้มีใครมานั่ง จะเป็นทางซ้ายหรือขวาของที่นั่งเราก็แล้วแต่จะเลือก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ถูกว่าการซื้อ2เก้าอี้แน่นอนครับ ส่วนการเลือกที่นั่งก็สามารถเลือกได้นะครับมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่นกัน 


ภาพ : กระเป๋าผมแค่8กิโลกรัมเท่านั้น เขาให้โหลดได้ 15 กิโลกรัม เพื่อน้ำหนักขากลับไว้ช้อปปิ้งครับ 

เที่ยวบินของเราเดินทางตรงจาก สุวรรณภูมิ ไปยัง สนามบินอินชอนเกาหลีใต้ ออกจากเมืองไทยเวลาประมาณ 1.50น. ก็จะไปถึงเกาหลีประมาณ 9โมงเช้าพอดี (ต้องนับว่าเวลาเกาหลีต่างจากไทยอยู่ 2ชั่วโมงด้วยนะครับ) 

เครื่องบินที่นั่งมาจะมีที่นั่งแยกเป็นสองด้าน ด้านละ 3เก้าอี้ครับ ผมเลือกที่นั่งติดหน้าต่างไว้ เพราะอยากเห็นวิวในเครื่องบินได้ทั้งลำ แล้วถ้ามองออกไปนอกหน้าต่างตอนกลางคืนหวังว่าจะได้มองเห็นดาวกับเขาบ้าง และก็เลือกที่นั่งด้านหลังๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่ชอบนั่งด้านหน้ามากกว่า ที่นั่งด้านหลังจึงถูกกว่า ที่ว่าด้านหน้าหรือด้านหลังนั้นเขาแบ่งแยกโดย ส่วนกลางเครื่องที่มีประตูฉุกเฉินติดตั้งอยู่ 


ภาพ : เครื่องบินเจจูแอร์


ภาพ : ในเครื่องบินเจจูแอร์ เส้นทาง สนามบินสุวรรณภูมิ ไป สนามบินอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ จะเห็นว่าที่นั่งแบ่งเป็นสองด้าน ซ้าย-ขวา ด้านละ 3เก้าอี้ตลอดลำ มีที่เก็บสัมภาระด้านบน


ภาพ : ผมลือกนั่งท้ายๆของเครื่องเพราะอยากมองเห็นบรรยากาศทั้งลำของเครื่องบินครับ 


ภาพ : เก้าอี้นั่งบนเครื่องบินเจจูแอร์ 


ภาพ : ที่รองหัวบนเก้าอี้มีโลโก้น่ารักของเจจูแอร์


ภาพ : ที่วางอาหารและหนังสือ


ภาพ : นั่งได้สบายครับ หลับยาวไปถึงเกาหลี

สำหรับเบาะเก้าอี้เป็นเบาะผ้า มีที่หนุนหัวที่ตัวเก้าอี้ รองด้วยผ้าโลโก้เจจูแอร์ มีที่วางอาหารและหนังสือที่เบาะเก้าอี้ด้านหน้า ถ้าจะถามว่านั่งแล้วสบายมั๊ย มันก็เหมือนโลคอร์สแอร์ไลน์โดยทั่วไปนะครับผมว่า ผมสูง 178 เซนติเมตร เวลานั่งเขาก็ไม่ได้ชิดอะไรมากมาย เวลานอนเก้าอี้ปรับไม่ได้มากนักปกติผมก็นอนมันทั่งอย่างนั้นละครับจนชินซะละ แต่มีอย่างนึ่งครับในการจองที่นั่งสำหรับคนที่กังวลเรื่องเกาอี้ เจจูแอร์เขามีบริการเสริมอย่างการล๊อคที่นั่งด้วยนะครับอย่างที่กล่าวไปบ้างแล้ว จะล๊อคไว้นอนเลยก็มีนะครับสำหรับคนที่เดินทางคนเดียว อันนี้เห็นบริการเสริมในเว็บของ เจจูแอร์ กันที่นั่งไว้ให้ เรียกว่า Purchased Block Seat  แต่ราคาจะถูกกว่าซื้อที่นั่ง3ตัวแน่ๆ จ่ายเงินเพิ่มอีกนิดหน่อยก็นอนกันไปเลย เหมาะกับคนที่มาคนเดียวแล้วมีปัญหา เรื่องการนอนหลับบนเก้าอี้ หรือ คนที่มาเป็นคู่รัก ไม่อยากให้ใครมานั่งใกล้ มากันเป็นครอบครัวอะไรแบบนี้เหมาะมากเลยครับ ผมลงลิงค์ไว้ให้เพื่อใครจะเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.jejuair.net/jejuair/serviceinfo/additional/sideseat.jsp

สำหรับเรื่องอาหารบนเครื่องบิน เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ ยิ่งคนชอบอาหารเกาหลีคงจะชอบ มาเริ่มสัมผัสวัฒนธรรมเกาหลีอย่างแรกด้วยการกินอาหารบนเครื่องบินนี้ละครับ ซึ่งบนเครื่องบินเจจูแอร์ เขาจะมีบริการ Air Cafe เป็นบริการ อาหาร เครื่องดื่ม และขนมคบเคี้ยวให้กินกันได้ตลอดทาง ซึ่งได้รับความนิยมจากชาวเกาหลีเป็นอย่างมาก เท่าที่สังเกตุเห็นคนเกาหลีซื้อกินบนเครื่องเยอะครับ หยิบเมนูที่เสียบไว้ที่หน้าที่นั่งมาชม ราคาที่เราเห็นนี้เป็นราคาเดียวกับที่ขายในเกาหลีทั่วๆไปเลยละครับ มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลี, บีบิมบับกึ่งสำเร็จรูป (ข้าวยำเกาหลี) ด้วยนะครับ หรือจะเลือกที่จะสั่งอาหารไว้กินบนเครื่องล่วงหน้าด้วยเมนูพิเศษก็มี อันนี้จองกันในเว็บได้เลย มีอาหารหลากหลายให้เลือก 


ภาพ : บริการ Air Cafe บนเครื่องบินเจจูแอร์


ภาพ : ด้านในมีเมนูทานเล่นหลายรายการให้เลือก 


ภาพ : ลองกินอาหารเกาหลียอดฮิตอย่าง บีบิมบับ(ข้าวยำเกาหลี) ก็มีขายด้วยครับ


ภาพ : แอร์โฮสเตสให้บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่องบิน 


ภาพ : การจ่ายเงิน เราสามารถใช้เงินสด หรือ เครดิตการ์ดก็ได้นะครับสะดวกมาก

ยังมีพวกสินค้าที่ระลึกของเจจูแอร์จำหน่ายด้วยนะครับ น่ารักๆ อย่างเครื่องบินกระดาษเจจูแอร์  แบบเป่าลมก็มี พวงกุญแจก็น่ารัก มีราคาตั๋วรถเข้าเมืองในราคาพิเศษด้วยนะครับ 


ภาพ : มีของที่ระลึกจำหน่ายด้วย

แล้วผมก็หลับยาวไปถึงสนามบินอินชอนเลยละครับ ตั้งใจว่าจะตื่นมาถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าบนเครื่องบินสักหน่อย วางแผนมาดิบดีเลือกนั่งฝั่งขวาไว้เพราะเป็นทิศตะวันออก ดันตื่นสายตื่นมาก็แสงจ้าแล้วซิครับ  อดเลย ไว้คราวหน้าจะถ่ายมาให้ชมกันนะครับ มองนอกหน้าต่างเจอ เจจูแอร์ยิ้มให้ซะแล้ว มองที่ปีกเครื่องบินมีรูปโลโก้เจจูแอร์ เหมือนหน้าคนยิ้มให้น่ารักเชียว


ภาพ : มองไปนอกหน้าต่าง เหมือนมีคนยิ้มให้ โลโก้เจจูแอร์

พูดถึงความน่ารัก ต้องขอบอกความประทับใจเลยว่า แอร์โฮสเตทของสายการบินเจจูแอร์บริการได้น่าประทับใจมาก อีกความสุภาพเรียบร้อยยกให้เลยครับ การแต่งตัวก็เรียบร้อย รวบผมสะอาดเรียบร้อยน่ารักทีเดียว 


ภาพ : การบริการบนเครื่องบินของ สาวๆแอร์โฮสเตส เจจูแอร์


ภาพ : ชอบที่พวกเธอแต่งตัวดูดี และรวบผมทุกคนยิ่งทำให้ดูสะอาดเรียบร้อย ดูดีมากๆ


ภาพ : ถ่ายภาพการขนกระเป๋าลงจากเครื่องที่สนามบินอินชอนประเทศเกาหลีใต้มาให้ชมกันด้วย พอดีนั่งตรงที่รถขนกระเป๋ามาพอดี


ภาพ : เจจูแอร์บริการจากไทย 3เส้นทาง ไปเกาหลีใต้ และเข้ายังบินจากเกาหลีไปยังประเทศต่างๆอีกหลายประเทศ

สำหรับการจองเที่ยวบินของสายการบินเจจู สามารถจองผ่านหน้าเว็บ www.jejuair.net หรือจะเข้าจองที่ออฟฟิศในกรุงเทพฯก็ได้นะครับ เขามีออฟฟิศอยู่ที่อาคารสิรินรัตน์ ชั้น3 ถนนพระราม 4 เยื้องๆกับช่อง3 นั้นละครับ ตอนนี้มี 3เส้นทาง คือ  กรุงเทพ -อินชอน(Incheon), ปูซาน(Busan), แทกู(Daegu) เรื่องราคาลองจองที่หน้าเว็บได้เลยครับ ส่วนพวกโปรโมชั่นราคาพิเศษต่างๆแนะนำให้ เข้าไปกดไลค์หน้าเพจเฟซบุ๊คของเจจูแอร์ไว้ จะเห็นเขามีออกมาเรื่อยๆ ถูกๆทั้งนั้น ที่ www.facebook.com/jejuairbkk


ภาพ : หน้าเว็บเจจูแอร์

ใครสนใจเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ที่เว็บไซต์ของเจจูแอร์  www.jejuair.net หรือ โทร. 02 367 5296-99 อีเมล์: jejuair.bkk@gmail.com, เฟสบุ๊ค www.facebook.com/jejuairbkk


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://korea-guides.blogspot.com/2012/04/jeju-air.html

10 เคล็ดลับจองตั๋วเครื่องบินกี่ครั้งๆ ก็ยังจ่ายราคาถูก


GoBear
สนับสนุนเนื้อหา

หากเพื่อนๆคิดจะไปเที่ยวที่ไหนซักที่ ให้วางแผนล่วงหน้าก่อนวันเดินทางให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รู้ไหมครับว่าแต่ละสายการบินเขาออกตั๋วไว้เตรียมขายล่วงหน้าตั้งแต่ 11 เดือนที่แล้วนู่นแน่ะ แนะนำให้เพื่อนๆเริ่มดูตั๋วกันได้เลย และเข้าไปเช็คบ่อยๆซักอาทิตย์ละครั้ง พอเจอดีลในราคาที่ใช่จะได้กดจองทัน หากไปจองเอาใกล้ๆก็อาจจะโชคดีได้ดีลนาทีสุดท้าย แต่ก็ไม่การันตีนะครับว่าดีลจะยังเหลือให้เพื่อนๆได้จองจริงๆ
2. เลือกเวลาซื้อตั๋วก่อนวันบินประมาณ 7-12 สัปดาห์
มีการศึกษาโดย CheapAir ที่วิจัยการค้นหาเที่ยวบินกว่า 560 ล้านเที่ยวพบว่า หากจะจองตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ ให้จองล่วงหน้าอย่างต่ำ 7 สัปดาห์ และอย่างต่ำ 11 สัปดาห์ล่วงหน้าสำหรับตั๋วเที่ยวบินระหว่างประเทศ และตั๋วจะเริ่มแพงมากๆหากเพื่อนๆจองล่วงหน้าเพียง 14 วัน และหากจองล่วงหน้านานเกินไปหรือมากกว่า 5 เดือนขึ้นไป ราคาตั๋วก็จะยังไม่ใช่ราคาที่ถูกที่สุดครับ ส่วนเรื่องให้จองตั๋วในวันอังคารหรือวันพุธเพื่อให้ได้ราคาถูกที่สุด นั่นก็เป็นแค่ความเชื่อเท่านั้นครับ
3. เลือกวันเวลาของเที่ยวบินให้ดี
เป็นที่เห็นพ้องต้องกันว่า หากเพื่อนๆเลือกจองเที่ยวบินที่ออกบินในวันอังคาร วันพุธ หรือวันเสาร์ เพื่อนๆจะได้ตั๋วราคาถูกกว่าการจองวันอื่นๆ เพราะเป็นวันมีที่นั่งเหลือมาก และไม่ควรจองตั๋วเครื่องบินเที่ยวบินวันศุกร์หรือวันอาทิตย์ เพราะจะแพงที่สุดครับ นอกจากนี้ หากเพื่อนๆจองเที่ยวบินที่เวลาบินไม่ใช่เวลาปกติ เช่น ไฟลท์ดึกหรือไฟลท์เช้ามืด ก็จะได้ดีลราคาดีที่สุดเช่นกันครับ
4. เปลี่ยนวิธีการจ่ายเงิน
หากเพื่อนๆใช้บัตรเครดิตในการจ่ายเงินจองตั๋วเครื่องบิน ก็มักจะมีการหักค่าธรรมเนียมเข้าไปด้วย นั่นทำให้ราคาตั๋วสูงขึ้นไปอีก ดังนั้นหากลองเลี่ยงการจ่ายด้วยบัตรเครดิต ก็จะลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้ครับ อย่างไรก็ดี หากเป็นการจองเที่ยวบินระหว่างประเทศ การใช้บัตรเครดิตที่ร่วมรายการก็อาจได้ประโยชน์เพราะทำให้เพื่อนๆสามารถสะสมแต้มแลกไมล์บินได้นั่นเอง
5. หาเที่ยวบินที่มุ่งหน้าไปสนามบินทางเลือก
หากจะจองตั๋วเครื่องบินไปยังเมืองใดเมืองหนึ่ง ลองเช็คดูครับเผื่อว่าจะมีสนามบินอีกแห่งในเมืองเดียวกัน ลองเช็คราคาของทั้งสองจุดหมายแล้วซื้อตั๋วไปยังจุดหมายที่ราคาถูกที่สุด แต่ต้องวางแผนค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าเมืองให้ดีนะครับ เพราะบางทีบวกค่ารถบัสไปแล้ว เอาไปซื้อตั๋วไปสนามบินหลักอาจจะถูกกว่า
6. จองโดยใช้หลายๆสายการบิน
ลองเปรียบเทียบราคาในหลายๆสายการบิน โดยมิกซ์แอนด์แมตช์ตัวเลือกที่ถูกที่สุด เช่นขาไปไปกับสายการบินหนึ่ง ขากลับอาจไปกับอีกสายการบินหนึ่ง ก็ทำให้สามารถจองตั๋วเครื่องบินที่ราคาถูกลงได้ครับ
7. หลีกเลี่ยงเดินทางช่วงวันหยุด
หากเป็นช่วงก่อนหรือหลังช่วงวันหยุดประมาณ 7 วัน ให้หลีกเลี่ยงการจองตั๋วเครื่องบินช่วงนี้ครับ แน่นอนว่าทั้งคนแน่นและตั๋วจะมีราคาแพง นี่รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปด้วย โดยหาก ณ ขณะนั้นเป็นช่วง high season ราคาตั๋วก็จะแพงขึ้นนั่นเองครับ
8. ยิ่งรอต่อเครื่องนาน ยิ่งถูก
หากเพื่อนๆอดใจรอไหวเพื่อให้ได้ตั๋วที่ถูก แนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินที่ใช้ระยะเวลาต่อเครื่องที่นานขึ้น ก็จะได้ราคาตั๋วที่ถูกลงครับ
9. ประหยัดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเข้าไว้
บางสายการบินจะมีการเก็บค่าบริการเพิ่มเติมหากเพื่อนๆต้องโหลดกระเป๋าหรือถือกระเป๋าสองใบ ให้ลองจัดสัมภาระในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ให้กระเป๋ามีขนาดใหญ่เกินไป หรือเลือกใช้สายการบินที่ไม่เสียค่าธรรมเนียมโหลดกระเป๋าก็จะลดค่าใช้จ่ายได้ครับ
10. ลบข้อมูล cookies/history ในเครื่องคอม
บางเว็บไซต์จองตั๋วเครื่องบินจะเก็บข้อมูลการค้นหาตั๋วเครื่องบินของเพื่อนๆไว้ ทำให้เมื่อสนใจกลับมาค้นหาซ้ำสอง ราคาตั๋วก็จะเพิ่มขึ้น จึงแนะนำให้ก่อนค้นหาเที่ยวบิน ลองลบข้อมูล cookie ทิ้ง หรือเปิดเบราเซอร์ให้อยู่ในโหมด incognito แทนครับ
10-saving-ticket-plane
หวังว่าเรื่องราวดีๆที่นำมาฝากเพื่อนๆวันนี้จะทำให้เพื่อนๆสามารถเที่ยวได้อย่างสบายกระเป๋า หมดกังวลเรื่องงบเที่ยวไปอีกเปลาะนะครับ จะให้สบายใจยิ่งขึ้นไปอีก ก่อนเดินทางก็อย่าลืมเช็คประกันเดินทางติดตัวไปด้วย ช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินให้เพื่อนๆได้อีกเยอะเลยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

โพสต์แนะนำ