https://wentimpression.blogspot.com/google.com,%20pub-3791389710662192,%20DIRECT,%20f08c47fec0942fa0 7 คำถามฮิต ! ตม.(ภาษาอังกฤษ) + Tips คำตอบ = ให้ผ่าน ตม.เกาหลี

หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

7 คำถามฮิต ! ตม.(ภาษาอังกฤษ) + Tips คำตอบ = ให้ผ่าน ตม.เกาหลี


เที่ยวโซล แวะถ่ายรูปที่มหาวิทยาลัยอีฮวา (Ewha Womans University)

Q. 1 " What's the purpose of your visit? "
= จุดประสงค์ของการมาเยือนของคุณคืออะไร ? 

A. I come to travel / study / visit relatives
= ฉันมาท่องเที่ยว / มาเรียน / มาเยี่ยมญาติ


Q. 2 " How long will you be staying? "
= จะมาอยู่กี่วัน ? (ให้ตอบตามจริง)

A. 2 = six  days and five night เช่น 6 วัน 5 คืน / 
หรือ
= มาถึงวันนี้ และจะกลับวันที่ 7
Arrive today and will return on the 7th

Tips : ) *** พร้อมยื่นตั๋วเครื่องบินขากลับให้ดู


Q. 3 " Where will you be staying? "
= คุณพักที่ไหน?
A. 3 = I will stay at the hotel .... Location ...
= ฉันจะพักที่โรงแรม....สถานที่ตั้ง....
Tips : ) *** ยื่นเอกสารการจองโรงแรมให้ดู


Q.4  "Where will you be visiting?"
= จะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ?

A. 4 =  I will go to walk in Ewha Womans University 
which has beautiful architecture.
= ฉันจะไปเดินเที่ยวใน มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม
Tips : ) *** ตอบตามแพลนที่กำหนดไว้จริง สัก 2 แห่ง


Q. 5 " What do you do ? "
= คุณมีอาชีพอะไร ?

A. 5 = I am a retired government official.
= ฉันเป็นข้าราชการบำนาญ



Q. 6 " What are you studying? "
ในกรณีที่เป็นนักเรียน = คุณมาเรียนอะไร? 

A. 6  =  I will study for a master's degree. 
ฉันจะมาเรียนปริญญาโท


Q. 7 " How much money are you bringing? "
= คุณนำเงินมาด้วยเท่าไร ?

A. 7 = I bring the money to 300 USD 
and have money on the credit card as well.
= ฉันนำเงินมาด้วย 300 ดอลล่า และมีเงินในบัตรเครดิตด้วย

Tips : ) ตอบตามจริง , ต้องเช็คดูข้อกฎหมายนำเงินสดเข้าประเทศได้ไม่เกินเท่าไหร่!?


+++ ขอบคุณข้อมูลดีๆ เพิ่มเติม จากเวป. mushroom travel


จากข่าวเกี่ยวกับตม.เกาหลีที่พูดกันอย่างหนาหูมากๆ ว่าโหดบ้าง ผ่านยากบ้าง ร้ายที่สุดก็คือโดนกักตัว สอบสวนละเอียดยิบ บางคนก็ถูกส่งกลับประเทศทันที อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำผิดอะไร ทำให้หลายคนกล้าๆ กลัวๆ ที่จะไปเที่ยว ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า ทำไมตม.บ้านเค้าต้องโหดขนาดนี้?สาเหตุนั่นก็เพราะการที่มีคนลักลอบเข้าประเทศแบบผิดกฎหมายกันเยอะ จึงทำให้คนที่ตั้งใจไปเที่ยวจริงๆ อย่างพวกเราๆ โดนสงสัย และถูกเข้มงวดกันมากขึ้นนั่นเอง ส่วนเรื่องของระบบระเบียบการสอบสวนหรือคัดเลือกให้ผ่านว่าใครที่จะผ่าน ตม เกาหลี 2019 นั้นคงต้องรอคำตอบจากทางผู้ที่เกี่ยวข้องเนอะ เอาเป็นว่าไม่ว่าจะเอาอะไรมาเป็นบรรทัดฐานก็ลองมาดูคำแนะนำจาก มัชรูมทราเวล ไปเตรียมตัวกันก่อนก็แล้วกันค่ะ

แต่งตัวดี มีชัยไปกว่าครึ่งแว๊บแรกที่เจ้าหน้าที่จะมองเห็นและสังเกต ก็คือ การแต่งตัวของเรานั่นเอง เป็นคะแนนลำดับแรกที่จะตัดสินว่าเราจะผ่านหรือไม่ผ่านเลยล่ะค่ะ สำหรับการแต่งตัว ขอให้ยึดคอนเซปต์ สุภาพเรียบง่าย และแต่งตัวให้ดูเป็นนักท่องเที่ยวจริงๆ ผู้หญิงควรใส่ชุดที่ดูเรียบร้อย ไม่โชว์เนื้อโชว์หนัง และไม่แต่งหน้าจัดจนเกินไป ส่วนคุณผู้ชายก็แต่งตัวตามปกติ เสื้อยืด กางเกงขายาว อาจมีเสื้อคลุมซักหนึ่งตัว สำหรับไอเท็มเสริมที่ควรมีคือ “กล้อง” สะพายคล้องคอไปได้เลย และ การใส่รองเท้าผ้าใบ ก็จะทำให้ดูทะมัดทะแมงเตรียมตัวเที่ยวเต็มที่

เอกสารครบ จบ(เกือบ)ทุกคำถามการเตรียมเอกสารในการเดินทางแต่ละทริปนับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแค่การเดินทางเข้าประเทศเกาหลีเท่านั้น แต่สำคัญสำหรับการเดินทางไปทุกประเทศเลยล่ะค่ะ ยิ่งเป็นการผ่านด่าน ตม เกาหลี 2019 ด้วยแล้วล่ะก็…ยิ่งต้องเตรียมให้พร้อม สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนออกเดินทางแต่ละทริปนั้นก็คือ การเช็คพาสปอร์ตว่าใกล้หมดอายุหรือยัง? จะเข้าประเทศนี้ต้องใช้อะไรบ้าง? ส่วนคนที่ไปเที่ยวกับกับบริษัททัวร์ก็จะสบายหน่อย เพราะจะมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือแนะนำ และช่วยดำเนินการด้านเอกสารให้ สำหรับเอกสารที่ต้องเตรียมไป มีดังนี้

• พาสปอร์ต : เปรียบเสมือนบัตรประชาชนระหว่างที่เราอยู่ในต่างประเทศ สำหรับใครที่มีพาสปอร์ตเล่มเก่าที่เคยใช้เข้าเกาหลีมาก่อนก็พกไปด้วยนะคะ จะได้โชว์เจ้าหน้าที่ว่าฉันเคยมาเที่ยวแล้ว ให้ฉันผ่านไปง่ายๆ เถอะ!!
• บัตรเข้าออกนอกเมือง : หรือใบตม. เป็นใบสำคัญที่ระบุข้อมูลเกี่ยวกับเรา ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ-นามสกุล ไฟล์ทบิน ข้อมูลที่พักในทริปนี้ จำนวนวันที่มา รวมถึงจุดประสงค์ในการมาครั้งนี้ ซึ่งเราจะต้องกรอกให้เรียบร้อย สามารถรับใบตม.ได้จากแอร์โฮสเตสตอนอยู่บนเครื่องบิน หรือที่สนามบินปลายทางเมื่อเดินทางถึง หรือถ้าใครเดินทางกับทัวร์ก็จะมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทจัดการกรอกให้เรียบร้อยเลยค่ะ เราแค่เซ็นชื่อเท่านั้นเอง
• ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ : สิ่งนี้แหละที่จะเป็นเครื่องการันตีได้ว่าเรามาท่องเที่ยว เพราะมันจะระบุข้อมูลวันเดินทางมา และวันเดินทางกลับอย่างชัดเจน เป็นการบอกว่าฉันมาเที่ยวแป๊บเดียว เดี๋ยวกลับบ้านแน่นอนจ้า
• หลักฐานการจองโรงแรม : เพื่อการันตีว่าเราพักอยู่ที่นี่ (มีปัญหาอะไรก็เจอได้)
• หลักฐานการทำงาน(ควรเป็นภาษาอังกฤษ) : กรณีเป็นข้าราชการ หรือ พนักงานเอกชน สามารถแสดงบัตรประจำตัวพนักงานได้
• สำเนาบัญชีออมทรัพย์ : พร้อมโชว์ยอดเงินคงเหลือ
• เอกสารประจำตัว : บัตรประจำตัวประชาชน, ใบขับขี่รถยนต์, สำเนาทะเบียนสมรส
• เอกสารเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล (ถ้ามี)
นอกนั้นก็เป็นเอกสารอื่นๆ เพื่อความปลอดภัย และความมั่นใจไร้กังวลอย่างสูงสุด จะเตรียมไปก็ไม่เสียหายค่ะ เช่น แผนที่ โบรชัวร์ แผนการท่องเที่ยวต่างๆ ถ้าเค้าถามมารับรองว่าตอบได้แน่นอน

นิ่งสงบ สยบความตื่นเต้น ดั่งสุภาษิตที่ว่า จะทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง จะผ่านตม.เกาหลีก็ยิ่งต้องนิ่งค่ะ นิ่งในที่นี้คือการทำตัวสุขุม ไม่ลน ไม่แสดงความกังวล ถึงแม้ว่าจะมีอาการตื่นเต้น แต่ต้องพยายามควบคุมมันให้อยู่ค่ะ สบตากับเจ้าหน้าที่เวลาพูดคุยหรือตอบคำถาม แต่ไม่ต้องทำหน้านิ่งเกินไปนะคะ ยิ้มแย้มแจ่มใสได้ ซึ่งจะทำให้คุณดูมีความน่าเชื่อถือ น่าไว้วางใจ และมีบุคลิกที่ดี ช่วยเพิ่มคะแนนในการผ่านเข้าประเทศได้มากขึ้น และง่ายขึ้นค่ะ

เก็งคำถาม พร้อมหาคำตอบ สำหรับการเตรียมตัวผ่านด่าน ตม. นั้น เจ้าหน้าที่ก็อาจจะมีการถามคำถามเราบ้าง เพื่อความมั่นใจว่าเรามาเที่ยวจริงๆ ใครอยากผ่าน ตม เกาหลี 2019 ไปได้ง่ายๆ ก็ต้องเตรียมตัวกันไว้ก่อน เวลาตอบก็ตอบด้วยความมั่นใจไม่ลังเล โดยคำถามส่วนใหญ่ก็เป็นคำถามทั่วไปเกี่ยวกับทริปการเดินทางของเรา อย่างเช่น

• มากับใคร? 
• มาอยู่กี่วัน? 
• ไปเที่ยวที่ไหนบ้าง? 
• ทำงานอะไร? 
• แลกเงินมาเท่าไหร่?
ความจริงก็ไม่ได้เป็นคำถามยากอะไรเลย คนเตรียมตัวไปเที่ยวจริงๆ ต้องตอบได้อยู่แล้วค่ะ และที่สำคัญ อย่าพยายามพูดภาษาเกาหลีกับเจ้าหน้าที่ ถ้าคุณไม่สามารถพูดได้จริงๆ

ฝึกภาษาอังกฤษซักนิด เพื่อพิชิตคำถาม

ภาษาอังกฤษ คือ ภาษาสากลที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกันทั่วโลก และแน่นอนเมื่อคุณจะไป ทัวร์เกาหลี หรือที่ไหนๆ ก็ตามที่ต่างบ้านต่างเมือง คุณจำเป็นต้องงัดสกิลภาษาอังกฤษที่สั่งสมไว้ออกมาใช้ เพื่อฟังและตอบคำถามเจ้าหน้าที่ตม. ถ้าถูกถามเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงเกาหลีแล้วไม่เข้าใจก็ขอ Again please แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคำถามพื้นๆ อย่างที่ได้เกริ่นไปข้างต้น และประโยคที่ไม่ควรตอบที่สุดเลยก็คือ I don’t know หากฟังไม่ออกจริงๆ ก็ให้พูดไปว่า Sightseeing หรือ Tourist ไปเลยค่ะ

ขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ตม เกาหลี 2019

หลังจากที่ได้เตรียมตัวก่อนออกเดินทางมาแล้วว่าจะทำการรับมือกับตม.เกาหลีอย่างไรบ้าง เรามาดูขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองกันบ้างดีกว่า สำหรับมือใหม่หัดเที่ยว จะได้เรียนรู้ไปก่อน ไม่ตื่นเต้น และไม่ทำผิดทำถูกเนอะ เพิ่มความมั่นใจให้เต็มร้อย จะได้คลายกังวลเรื่องตม.เกาหลีกันค่ะ



Cr. commons.wikimedia.org

เมื่อลงจากเครื่องแล้ว ก็เดินตามป้าย Arrivals ไปเรื่อยๆ จนเจอบันไดเลื่อนที่จะพาลงไปยังรถไฟใต้ดินเพื่อนั่งไปอีกอาคาร และไปยังด่านตม.นั่นเอง (ใครมือใหม่ ก็เดินตามๆ คนอื่นไปก็ได้ค่ะ)
เมื่อเดินมาถึง ด่านตรวจคนเข้าเมือง ให้เดินไปต่อแถวที่ช่อง Foreigner Passenger จากนั้นก็ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้เลย
1.ยื่น Arrival Card (ใบผ่านเข้าเมืองที่ได้รับจากแอร์ฯ บนเครื่องบิน) และพาสปอร์ต ให้กับเจ้าหน้าที่ (ควรยิ้มและสบตา อย่าหลบสายตา อย่าหลุกหลิก ท่องไว้ว่านิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว อย่างที่ได้ซ้อมเตรียมตัวก่อนมา)
2.เมื่อเจ้าหน้าที่เช็คพาสปอร์ตและเอกสารเรียบร้อยแล้ว อาจจะมีคำถามเล็กๆ น้อยๆ หรือบางคนก็ไม่โดนถามอะไรเลย เป็นคำถามทั่วๆ ไปอย่างที่เราได้ยกตัวอย่างไป เราก็ตอบคำถามด้วยความมั่นใจได้เลยค่ะ
3.จากนั้นเจ้าหน้าที่จะบอกให้เราวางนิ้วมือลงบนเครื่องเพื่อสแกนลายนิ้วมือ (สำหรับเครื่องนี้มีหน้าจอเป็นภาษาไทยอยู่ ไม่ต้องห่วง) เราก็วางนิ้วชี้ทั้งสองข้างลงบนเครื่องได้เลย จากนั้นก็ให้เรามองกล้องเพื่อทำการถ่ายภาพใบหน้า โดยจะต้องไม่สวมแว่น ไม่สวมหมวก ยิ้มมุมปากได้นิดหน่อยห้ามเห็นฟัน และไม่คุยโทรศัพท์มือถือ
4.เมื่อเรียบร้อยแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะปริ๊นใบวีซ่าเล็กๆ คล้ายๆ กับใบเสร็จรับเงินมาให้เรา ในใบจะบอกรายละเอียดต่างๆ รวมถึงวันที่อนุญาตให้เราอยู่เกาหลีได้ถึงวันที่เท่าไหร่ เราต้องเก็บใบนี้ไว้ให้ดีตลอดการเดินทาง เพราะใบนี้แหละค่ะคือตัวยืนยันให้เราผ่านเข้าประเทศไปได้ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จพิธีด่านตรวจคนเข้าเมืองค่าาาา
และนี่ก็เป็นคำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนเผชิญหน้ากับ ตม เกาหลี และขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ที่มัชรูมทราเวลนำมาเล่าสู่กันฟัง หวังว่าจะช่วยให้คุณ ผ่าน ตม.เกาหลีได้ง่ายขึ้นนะคะ บอกเลยว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด แล้วไปสนุกกับการ ทัวร์เกาหลี กันนะคะ 🙂
ขอบคุณที่มาข้อมูลจาก visitkorea.or.kr

ไม่มีความคิดเห็น:

โพสต์แนะนำ