ปีใหม่ 2019 ไปขอพรคู่รัก...ตามรอยซีรีส์ดัง จางอ๊กจอง !

ขอคู่ยังไงให้ได้คู่ 2019 

ฉบับเกาหลี ตามรอยซีรีส์ดัง !

วันนี้เอาใจสาวโสดติ่งซีรีย์เกาหลี พาไปตามรอย จางอ๊กจอง 

ตำนานรักคู่บัลลังก์ (Jang Ok Jung) 

ซีรีย์ดังเรื่องราวประวัติศาสตร์ของกษัตริย์ในราชวงศ์โชซอน 

หนึ่งในพระสนมของพระเจ้าซุกจงนางก็มีอัตชีวประวัติที่เล่าขานมานาน

เรื่องราวของจางอ๊กจองจากหญิงสาวชนชั้นที่ต่ำต้อย หนึ่งในสนมเอก

ของพระเจ้าซุกจงและเรื่องราวความรักที่เป็นตำนาน และถูกถ่ายทอดเป็น

ซีรีย์เรื่องราวของพระนางถูกนำมารีเมคมากถึง 9 เวอร์ชั่น ในแต่ละเวอร์ชั่น 

ความเป็นจางอ๊กจองก็ถูกเผยเเพร่มีในรูปแบบที่แตกต่างกัน 

ทั้งมีนิสัยที่แตกต่างกัน เป็นคนที่น่าสงสารบ้าง/ร้ายบ้าง แต่ในบทสรุป
ของทุกเวอร์ชั่นคือจางอ๊กจองจะเป็นผู้ที่ได้รับความรักจากพระเจ้าซุกจงและ
ด้วยความสามารถในหลายด้านจึงทำให้เธอได้เป็นถึงพระมเหสีเลยทีเดียว

.

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สุสานของพระนางเป็น 1 ในสถานที่ขอพรเรื่องความรัก

ที่ค่อนข้างโดดเด่นมากในเกาหลี ใครอยากไปขอพร อยากไปแวะเยียมชม

ก็สามารถไปได้เลยที่ซอ-โอ-รึง ตั้งอยู่ในเมืองโกยาง จังหวัดกยองกีนั่นเองค่ะ

นำมาฝาก "พยากรณ์ซากุระบานที่ญี่ปุ่น 2019"

ใครที่รอคอยซากุระของญี่ปุ่น ตอนนี้พยากรณ์ซากุระออกมาแล้วน๊า 

วันนี้จึงได้นำเอาสาระดีๆ และพยากรณ์สกุซะ 2019 มาฝากกัน
เพื่อที่จะได้วางแผนทริปเที่ยวในเมืองที่พอดีกับดอกซากุระบาน

ดอกซากุระที่ญี่ปุ่นตามปกติจะเริ่มบานไล่จากพื้นที่ทางใต้ขึ้นสู่ทางเหนือ

 โดยโซนแรกที่จะบานในปีนี้คือ ฟุกุโอกะ โตเกียว นาโกย่า 
และโอซาก้า ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 

และในช่วงต้นเมษายน นิงาตะ เซนได และซัปโปโร ตามลำดับ 

ซึ่งโซนแรกและโซนสุดท้ายที่ซากุระบานเวลาต่างกันพอสมควร

 เพราะฉะนั้น ถ้าไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงเดือนมีนาคมจนถึงต้นพฤษภาคม 

ก็ยังสามารถหาเมืองที่มีซากุระบาน เพื่อไปชื่นชมกับซากุระสวยๆได้ค่ะ

ล่องเรือโจรสลัด@กัปตันฮุก ชมทะเลสาบอาชิ Lake Ashi

ล่องเรือโจรสลัด@กัปตันฮุก 

ชมทะเลสาบอาชิ  Lake Ashi

ยามบ่าย หลังรับประทานอาหารกลางวัน

ได้เดินทางไปยังท่าเรือ  Hakone → Togendai

เพื่อนั่งเรือล่องทะเลสาบอาชิ เป็นเวลา 40 นาที

ชมวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ซึ่งเกิดจากการก่อตัวของลาวา

จากภูเขาไฟฟูจิ ที่สูงตระหง่านท่ามกลางภูเขาที่รายล้อม

ตัดกับพื้นน้ำในทะเลสาบอาชิ 

มีโอกาสได้ลงเรือสีม่วงทอง วันนั้นทัศนวิสัยดี อากาสดี มากๆ

ล่องเรือยามฟ้าใส..จึงสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ 

ได้อีกด้วย เป็นทริปที่คุ้มค่าสุดๆ

ได้ขึ้นไปยืนชมวิวและถ่ายรูปด้านบนดาดฟ้าเรือ 

พร้อมกับถ่ายรูปกับกัปตันเรือ "กัปตันฮุก" ไว้เป็นที่ระลึก

อากาศด้านบนมีลมแรง และเย็นมาก

เส้นทางเดินเรือทัศนาจรชมทะเลสาบฮาโกเน่นั้นเชื่อมต่อกับท่าเรือจำนวน 3 แห่ง จึงทำให้กลายเป็นพาหนะทางทะเลที่ให้ประโยชน์กับผู้โดยสารหลากหลายประเภทด้วยกัน ในแต่ละท่าเรือก็จะมีทัศนียภาพที่เป็นเอกลักษณ์ และระหว่างล่องเรือท่านก็จะได้ชื่นชมธรรมชาติที่เปลี่ยนผันไปตามฤดูกาล แม้ว่าการล่องเรือจะต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ความประทับใจที่ได้จากรอบทะเลสาบอาชินั้นนับค่าไม่ได้เลยทีเดียวเชียว

เรือรอยัล II

ความอัศจรรย์ของ รอยัล II กับการตกแต่งด้วยสีแดงและทอง

เรือ รอยัล II ได้ถูกออกแบบตามเรือรอยัลหลุยส์ ซึ่งเป็นเรือรบระดับเฟิร์สคลาสที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 18 ซึงได้ทำหน้าที่เป็นเรือธงให้กับกองเรือรบฝรั่งเศส

เรือวิคตอรี

วิคตอรี เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและความสะดวกสบาย

เรือวิคตอรีได้ถูกทำให้เป็นเรือแบบอย่างตาม HMS วิคตอรี เรือรบอังกฤษสมัยศตวรรษที่ 18 เรือลำใหม่ในกองทัพเรือทัศนาจรทะเลสาบฮาโกเน่ วิคตอรี นั้นมีลิฟต์ ห้องน้ำที่อำนวยความสะดวกให้กับท่าน จอ LCD ที่จะแสดงถึงข้อมูลเกี่ยวกับการเดินเรือและอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลแบบทวินไฮสปีดความเร็วสูงทำให้เรือลำนี้ดำเนินไปอย่างคล่องตัวไม่ว่าจะในช่วงสภาพอากาศพายุก็ตาม

ห้องโดยสารพิเศษบริเวณชั้น 2 พร้อมด้วยโซฟานั่งแสนสบายไปกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม

เรือลำนี้มีลิฟต์และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายให้กับท่าน

หีบสมบัติ! ล่องเรือเปรียบเสมือนโจรสลัดที่เต็มไปด้วยขุมทรัพย์

เรือวะสะ

เรือวะสะ รูปปั้นหัวเรือกษัตริย์แห่งความฟุ่มเฟือย

กุสตาวุส อะดอลฟุส กษัตริย์จากสวีเดนในสมัยช่วงต้นศตวรรษที่ 17 ผู้ที่เป็นที่รู้จักในนามจอมเผด็จการสิงโตทางตอนเหนือ ได้สร้างเรือรบวะสะ (ชื่อของกษัตริย์รุ่นแรก) หลังจากนั้นเรือท่องเที่ยวนี้จึงกลายเป็นเรือแบบอย่าง ที่ถูกตกแต่งด้วยลวดลายสลักที่หรูหราและรูปปั้นหัวเรือที่น่าประทับใจ

เรือวะสะเป็นที่รู้จักในชื่อ “ราชาแห่งรูปปั้นหัว เรือลำนี้มีลิฟต์และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายให้กับท่าน

หีบสมบัติ! ล่องเรือเปรียบเสมือนโจรสลัดที่เต็มไปด้วยขุมทรัพย์

เรือวะสะ

เรือวะสะ รูปปั้นหัวเรือกษัตริย์แห่งความฟุ่มเฟือย

กุสตาวุส อะดอลฟุส กษัตริย์จากสวีเดนในสมัยช่วงต้นศตวรรษที่ 17 ผู้ที่เป็นที่รู้จักในนามจอมเผด็จการสิงโตทางตอนเหนือ ได้สร้างเรือรบวะสะ (ชื่อของกษัตริย์รุ่นแรก) หลังจากนั้นเรือท่องเที่ยวนี้จึงกลายเป็นเรือแบบอย่าง ที่ถูกตกแต่งด้วยลวดลายสลักที่หรูหราและรูปปั้นหัวเรือที่น่าประทับใจ เรือ”

ข้อมูลจาก www.hakonenavi.jp

การตกแต่งที่หรูหราอลังการซึ่งรวมไปถึงกระจกสีสันสวยสดที่คอยรับแสงจากฟากฟ้า

รูปปั้นโจรสลัดที่เป็นจุดยอดนิยมสำหรับการถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

ร้านริมทะเลสาบอาชิ @ อาหารกลางวันที่อร่อยมาก

อาหารกลางวันอร่อยมาก 

@ ร้านอาหารเล็กๆ

ริมทะเลสาบอาชิ JAPAN

ก่อนที่จะล่องเรือชมทะเลสาบอาชิ

ก็ถึงเวลาอาหารกลางวัน ไกด์ได้นำเราไปที่ร้านอาหารเล็กๆ
ริมทะเลสาบอาชิ เป็นมื้อ อาหารกลางวันที่แสนอร่อย
ทำให้เรารู้สึกชื่นชอบรสชาติอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมนี้มาก
สำหรับการกินซุปให้ยกถ้วยขึ้นดื่ม


มีเมนูอาหารอร่อยๆ คือ บะหมี่บัควีทโซบะ
ซุปเต้าหู้ ไข่ตุ๋น ออมเล็ตแบบญี่ปุ่น และเทมปุระ จาก
ปลาเงินชุบเกล็ดขนมปังทอด

มีข้าวญี่ปุ่นนุ่มๆ แก้วสองใบสำหรับใส่น้ำเปล่า
และใส่ชาเขียวร้อน มีเครื่องเคียงเป็นผักดอง สลัดผัก
กะหล่ำปลี กับมิโซะซุป

มีเครื่องปรุงวางอยู่บนโต๊ะอาหาร คือซอสที่เอาไว้ผสม
กับงาบดเพื่อเป็นน้ำจิ้มเทมปุระ เป็นขวดๆคือ
น้ำสลัดวาซาบิใช้ราดกะหล่ำปลี และผงใช้โรยข้าวค่ะ

ถ่ายรูปหน้าร้านไว้เป็นที่ระลึก 

ดอกซากุระริมทะเลสาบอาชิ

"ไข่ดำ"....ตำนานอายุยืนแห่งฮาโกเน่ ญีุ่ป่น

อุทยานแห่งชาติโอกาเน่ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

กิน"ไข่ดำ" ให้อายุยืนที่หุบเขานรก!โอวาคุดานิ (Owakudani)

ปกติจะเป็นคนที่ชอบกินไข่ โดยเฉพาะรู้สึกชอบมากขึ้นที่ได้กินไข่ที่แช่ในน้ำพุร้อนที่มีตามสถานที่เที่ยวน้ำพุร้อนบ้านเราอยู่แล้ว เพราะมีคุณค่าทางสารอาหารครบถ้วนขึ้น  ได้มาเที่ยวที่นี่ก็ได้กินไข่ดำที่แช่จากบ่อน้ำแร่ร้อนมันสุดยอดจริงๆ  สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่สุดของฮาโกเน่ เป็นหุบเขาที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟฮาโกเน่เมื่อ 3000 ปีก่อน และยังคงครุกรุ่นจนถึงปัจจุบัน  ทำให้ยังคงมีกำมะถันและแหล่งน้ำพุร้อนอยู่รอบบริเวณนี้

รอบบริเวณนี้จะมีควันครุกรุ่นพร้อมกับกลิ่นกำมะถันตลอดเวลา นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมก็มักจะมาดูเหมืองกำมะถันที่นี่ รวมถึงชิมไข่ดำ ของขึ้นชื่อของโอวาคุดานิที่ว่ากันว่า กิน 1 ฟอง อายุจะยืนไป 7 ปีเลยทีเดียว รู้สึกถึงรสชาติไข่ดำแช่น้ำแร่ร้อนนี่มันอร่อยมากๆ ดูถุงใส่ไข่ดำก็ดูอมตะจริงๆ..!!

ก็ยังมีความฝันว่าจะได้ไปกินไข่ดำ และนอนแช่ออนเซ็น ที่โอวาคุดานิ อีกสักครั้ง อยากไปที่นั่นแบบนั่งรถรางชมวิว ก็น่าจะเข้าท่าดี เราสามารถขึ้นมาที่โอวาคุดานิได้โดยการใช้กระเช้า รถราง หรือขับรถขึ้นมาก็ได้เลยตามสะดวก สำหรับเวลาเปิด-ปิด : เวลาทำการ 9.00-17.00 

ที่เมืองฮาโกเน่ (Hakone) ถูกล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่สวยงามและมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย หากใครเคยได้ยินตำนาน ไข่ดำอายุยืนก็อยู่ที่นี่เช่นกัน อยู่ที่หุบเขา Owakudani (โอวาคุดานิ ) วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกัน

เมืองฮาโกเน่ (Hakone) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโตเกียว ห่างจากโตเกียวประมาณ 70 กิโลเมตร ที่นี่ถูกห้อมล้อมด้วยความสมบูรณ์สวยงามของธรรมชาติ จึงทำให้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และที่สำคัญ ออนเซนของที่นี่นั้นขึ้นชื่อมากๆ เพราะตั้งอยู่บริเวณที่เคยเป็นภูเขาไฟ ซึ่งปัจจุบันยังมีบางส่วนที่ยังไม่ดับ จึงทำให้เต็มไปด้วยบ่อน้ำร้อนและถ้ำกำมะถันหลงเหลืออยู่ อีกทั้งที่นี่ยังสามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิได้ ทำให้กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยว ซึ่งที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย แต่วันนี้เราจะขอนำเสนอสถานที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนานของไข่ดำอายุยืน ได้แก่ หุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani)

ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลบางส่วนจาก : travelkanuman.com และ ทัวร์ครับ

ดูแผนที่ / Map : 

OWAKUDANI

https://www.google.co.th/maps/place/%C5%8Cwakudani/@35.2431054,139.0176953,17z/data=!3m1!4b1!4m5!3m4!1s0x60199f37c8e10d7f:0xa1a85246ffb15c8a!8m2!3d35.2431054!4d139.019884

เล่าการเดินทางไปเมื่องฮาโกเน่->อุทยานแห่งชาติฮาโกเน่

การเดินทางไปเมืองฮาโกเน่ -->อุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ : Tokyo To Hakone

หลังกินอาหารเช้าที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลานัดหมายล้อหมุนจากกรุงโตเกียว
เพื่อเดินทางไป เมืองฮาโกเน่ สู่วนอุทยานแห่งชาติภูเขาไฟฟูจิ  เป็นการเดินทาง
โดยรถบัส ของบริษัทนำเที่ยวมาให้บริการตลอดการเดินทางที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น
เพลิดเพลินตื่นตาตื่นใจกับตลอดสองข้างทาง..เหมือนสมองกำลังบันทึกไว้ในความ
ทรงจำให้อยู่กับเราให้นานแสนนาน 

รถบัสนำเที่ยวได้พักจอดรถ ตรงลานหน้าร้านมินิมาร์ทข้างทาง เพื่อให้ลูกทัวร์ได้
ลงไปห้องสุขา เพื่อจะได้ทำภารกิจส่วนตัวหรือเข้าไปซื้อของกินเล่นกันตามอัธยาศัย 
ไกด์ได้แนะนำว่า น้ำตรงก๊อกน้ำที่นี่..สามารถดื่มกินได้เลยและยังเป็นน้ำแร่เย็นสะอาด

เราก็ลองใช้ดื่มกินซะหน่อยนึง ก็รู้สึกว่าน้ำเย็นสะอาดดื่มแล้วสดชื่นจริงๆ  เมื่อเข้าห้อง
สุขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ก็เลยเดินมาข้างรถบรรทุกของญี่ปุ่นเพื่อถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
รถบรรทุกที่นี่คันใหญ่โตสะอาดสวยงาม ไม่เหมือนกับรถบรรทุกบ้านเราเลย !

จากตัวเมืองโตเกียวก็ออกมานอกเมือง ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวถึงอุทยานแห่งชาติ
ฮาโกเน่ประมาณ 2.30 ชั่วโมง ออกมานอกเมืองก็เริ่มเห็นที่อยู่อาศัยที่เป็นบ้าน ในโตเกียว
จะมีแต่ตึกสูงๆ ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่จะเป็นคอนโด หรือ อพาร์ทเม้นต์ ระหว่างทางมีลอด
อุโมงค์เป็นช่วงช่วง ซึ่งไกด์บอกว่าเป็นอุโมงค์ที่มาจากการเจาะภูเขา 

ชมธรรมชาติอันสวยงามและบรรยากาศที่แสนสดชื่นของมวลแมกไม้ทิวสน สวยสะอาดตา
มุ่งสู่หุบเขานรก โอวาคุดานิ Owakudani ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟฮาโกเน่ เมื่อ 3
พันปีก่อน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองฮาโกเน่

ขอบคุณรูปภาพประกอบจาก : bombik.com

Hakone ฮาโกเน่ อยู่ที่ไหน ?

ฮาโกเน่ ( Hakone ) ตั้งอยู่ในจังหวัด Kanakawa จังหวัดที่อยู่ทางตอนใต้ของโตเกียวห่างออกไปราว 80 กิโลเมตร  โดยเราสามารถเดินทางจากใจกลางโตเกียวสู่ ฮาโกเน่ วิธีการเดินทางก็ทำได้หลากหลาย ทั้งการเช่ารถขับ หรือนั่งรถไฟ

EP. 2 คืนแรกกับการพักโรงแรมในโตเกียว

คืนแรกได้เช็คอินเข้าที่พักในกรุงโตเกียว

*ประทับใจกับบรรยากาศตอนกลางคืน*

Tokyo Crown Plaza Metropolitan Hotel

หลังกินข้าวเที่ยงเรียบร้อยแล้ว ไกด์ได้พาเราไปเดินย่านช้อปปิ้ง

ใกล้กับสถานีรถไฟโตเกียว นั่นก็คือ ย่านชินยูกุ ซึ่งขึ้นชื่อมากของวัยรุ่น

ชาวญี่ปุ่นเราก็ได้เห็นการแต่งกาย และชีวิตความเป็นอยู่ของวัยรุ่นญี่ปุ่น

ตอนนั้นก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจ กับย่านชินจูกุ อย่างมาก มีตึกสูงเสียดฟ้า

มีห้างขนาดใหญ่สำหรับช้อปปิ้งกันมากมาย หน้าตึกก็จะเห็นป้ายไฟ

โฆษณาขนาดใหญ่ เพื่อชักชวนให้ดู มีความโดดเด่นชวนดูจริงๆ

หลังจากเดินเที่ยวเล่นย่านวัยรุ่นนี้แล้ว ก็ถึงเวลากินข้าวเย็น

ได้ไปที่ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นกัน ก็เป็นมื้อที่สุดยอดของความอร่อย

หลังอาหารเย็นเสร็จเราก็ได้เดินทางเข้าสู่ที่พัก

เข้าพักที่โรงแรม Tokyo Crown Plaza Metropolitan Hotel

ขอบอกว่าในญุี่ปุนสมัยนั้นก็มีอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในโรงแรม

ไฮเทคทันสมัย ตั้งแต่โถส้วมแทบจะล้างก้นทำความสะอาดให้เลยทีเดียว 

หลังเข้าเช็คอินที่พักได้ห้องเรียบร้อยแล้ว ก็ลงมาเดินเที่ยวกัน

ชมบรรยากาศยามค่ำคืนของโตเกียว และเดินเที่ยวตามห้างสรรพสินค้า

ห้างสรรพสินค้าใหญ่โตมาก จะมีห้างมากมายอยู่ชั้นใต้ดิน กว้างขวางมาก 

จนกลัวหลงทางและกลับทางเดิมไม่ถูกอยากได้แป้ง และครีมบำรุงผิวหน้า 

ก็ถามพนักงานไม่รู้เรื่อง เพราะคนญี่ปุ่นในสมัยนั้น ไม่นิยมพูดภาษาอังกฤษ

ได้เดินเที่ยวออกมาไกลหน่อยจากโรงแรมที่พัก เดินไปที่มีบ้านพักอาศัย 

บรรยากาศยามค่ำคืนสวยมาก อากาศเย็นสบายเหมือนหน้าหนาวบ้านเรา

ทางเดิน ถนนหนทางก็สะอาด สบายตา เห็นต้นไม้ทรงสวยเขียวสด

รู้สึกประทับใจมากที่สุด ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศ มีความรู้สึก

ณ เวลานั้น เหมือนกับได้เดินอยู่บนสวรรค์ มีความสุข สบายตา สบายใจ

ยังคงจำความรู้สึกนั้นได้ดีและหวังไว้ว่าจะได้ไปเดินเล่นที่นั่นอีกสักครั้งหนึ่ง

ย้อนวันวานการเดินทาง (เชียงใหม่ < สู่ > นาริตะ)

เล่าเรื่องย้อนวันวาน

( เที่ยวประทับใจ *___* Went Impression)

EP. 1  การเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น(ครั้งแรกในชีวิต) 

ขอย้อนเล่าเรื่องไปเที่ยว,ดูงาน เมื่อหลายปีก่อน ได้มีโอกาสเดินทางไปที่ญี่ปุ่น

ถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ไปนอนในไปประเทศนี้ รวม 7 คืน ด้วยกัน

ช่วงที่เดินทางไปเป็นเดือนเมษายน หน้าร้อนบ้านเราช่วงนั้นร้อนมากๆ

ความรู้สึกในตอนนั้น ก็ตื่นเต้นมาก เตรียมอ่านข้อมูลเกี่ยวกับเมืองที่เราจะไปล่วงหน้า

ว่าที่เมืองนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอะไรบ้าง  มีของกินของฝากของที่ระลึก

ที่ยอดนิยมขึ้นชื่ออะไรบ้าง รวมทั้งเตรียมแลกเงินเยนไปจากบ้านเลย

เวลาค่ำๆได้ไปพร้อมกันที่สนามบินเชียงใหม่  แล้วออกเดินทางจากเชียงใหม่

เพื่อไปเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อมุ่งตรงสู่สนามบินนาริตะ 

เมืองโตเกียว โดยใช้เวลาเดินทางประาณ 8 .30 ชั่วโมง

ในระหว่างการเดินทาง อยู่บนเครื่องบินก็ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิด

เพราะมีบริการอย่างดีจากการบินไทย มีของว่าง พร้อมเครื่องดื่มสารพัดชนิด

ไว้บริการตลอดเส้นทางการบิน รวมถึงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ ไวน์ต่างๆด้วย

พักผ่อนหลับไปงีบหนึ่ง ตื่นเช้ามาก็ถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว

ตาสว่างทันทีหลังจากได้มองลงไปข้างล่างเห็นบรรยากาศเหนือแผ่นดินญี่ปุ่น

เห็นท้องฟ้าปุยเมฆ แลเห็นภูเขาไฟฟูจิอยู่ลิบๆ ช่างสวยงามมาก

ถึงสนามบินนาริตะ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว

ก็เจอไกด์ท้องถิ่น เป็นชายไทยน่าตาดีพูดเก่ง ให้การต้อนรับ และนำขึ้นรถบัส

เดินทางไปยังย่านอากิมาฮาระ 

ย่านอากิมาฮาระ  เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงและที่นิยมมากของคนโตเกียว

และต่างชาติ ในเรื่องเครืองไฟฟ้า และเทคโนโลยี อาทิเช่นกล้องดิจิตอล,

กล้องวิดีโอ,เกมส์ และ เครื่องเสียง เป็นต้น

เมื่อมาถึงอากิมาฮาระ ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นเมื่อมองไปด้านบนเห็นรถไฟฟ้า

วิ่งผ่าน...เนื่องจาก ณ เวลานั้น กรุงเทพบ้านเรา ยังเพิ่งมีแค่ตอหม้อรถไฟฟ้า

ความรู้สึกว่าญี่ปุ่นนี่ช่างเป็นประเทศแถบเอเชียที่ทันสมัยมากที่สุด

โปรดติดตามอ่าน...EP. 2  คืนแรกกับการพักโรงแรมในโตเกียว >>>